นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท สบาย มันนี่ จำกัด และบริษัทในกลุ่มสบาย
1. บทนำ
บริษัท สบาย มันนี่ จำกัด และบริษัทในกลุ่มสบายตามที่ได้นิยามไว้ในข้อ 2. (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศของข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยบริษัท เจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของบริษัท เพื่อให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของบริษัททั้งในปัจจุบันและในอนาคต เช่น ตู้เติมเงิน ตู้จัดจำหน่ายสินค้า บริการรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ บริการฝากเงิน/โอนเงิน บริการรับชำระบิลค่าบริการ ระบบจัดการร้านค้าปลีก (POS) รวมถึงการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แอปพลิเคชัน ช่องทางโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ของบริษัท เช่น https://sabuytech.com/ https://termsabuyplus.com/ https://sabuysolutions.com/ https://sabuymoney.com/ ได้อย่างมั่นใจว่าบริษัทมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
2. คำนิยาม
– บริษัท หมายถึง บริษัท สบาย มันนี่ จำกัด หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งในบริษัทในกลุ่มสบายตามที่ได้นิยามไว้ข้างล่างนี้
– ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
– ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
– การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
– เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
– ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
– บริษัทในกลุ่มสบาย ได้แก่ (1) บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (2) บริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด (3) บริษัท สบาย โซลูชั่นส์ จำกัด (4) บริษัท สบาย มันนี่ จำกัด (5) บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด (6) บริษัทเอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (7) บริษัท สบาย มาร์เก็ต พลัส จำกัด (8) บริษัท สบาย ฟู๊ด พลัส จำกัด (9) บริษัทสบาย แคปปิตอล พลัสจำกัด (10) บริษัท สบาย แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (11) บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (12) บริษัท เทโร สบาย จำกัด (13) บริษัท ฟอร์ทสมาร์ท สบาย เทค จำกัด (14) บริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด (15) บริษัท สบาย ดิจิตอล จำกัด (16) บริษัท เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส จำกัด (17) บริษัท สบาย แอคเซลเลอเรเตอร์ จำกัด (18) บริษัท สบาย พอซ จำกัด (19) บริษัท ซิตี้ซอฟต์ จำกัด (20) บริษัท สบาย ดิจิตอล จำกัด (21) บริษัท สบาย วอช จำกัด (22) บริษัท สบาย สปีด จำกัด (23) บริษัท สปีดดี้ เอ็กซ์เพรส เซอร์วิส จำกัด (24) บริษัท เพย์โพสต์เซอร์วิส จำกัด (25) บริษัท พลัส เอ็กซ์เพลส โซลูชั่นส์ จำกัด (26) บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด (27) บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด (28) บริษัท คีน โปรไฟล์ (ประเทศไทย) จำกัด (29) บริษัท คาร์ฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (30) บริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด จำกัด (31) บริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด (32) บริษัท ลอคบอกซ์ เจนเจอร์ส จำกัด (33) บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (34) บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (35) บริษัท ดับเบิ้ลเซเว่น จำกัด (36) บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (37) บริษัท เธียรสุรัตน์ ลีสซิ่ง จำกัด (38) บริษัท ไอซอฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด (39) บริษัท สบาย อลิอันซ์ จำกัด (40) บริษัท เอสเควี ยูนิตี้ ซัพพลาย จำกัด (41) บริษัท โอแคปปิตอล จำกัด (42) บริษัท โอ มันนี่ จำกัด (43) บริษัท สบาย อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด (44) บริษัท สบาย ฟูลฟิลเมนท์ จำกัด (45) บริษัท สบาย เอาท์ซอร์สซิ่ง จำกัด (46) บริษัท ลอค สบาย จำกัด (47) บริษัท คุโม เรคคอน จำกัด (48) บริษัท อุ๊ปส์ เน็ตเวิรค์ จำกัด (49) บริษัท เรดเฮ้าส์ ดิจิทัล จำกัด (50) บริษัท บลู พาร์คกิ้ง จำกัด (51) บริษัท สบาย มาสเตอร์ จำกัด (52) บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
– พันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น ได้แก่ (1) บริษัท ควิก เซอร์วิส จำกัด (2) บริษัท ไทยแวน เซอร์วิส จำกัด (3) บริษัท จีเอชแอล (ประเทศไทย) จำกัด (4) ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (5) ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (6) ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (7) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (8) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (9) ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (10) ธนาคารออมสิน (11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (12) บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด (13) บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (14) บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (15) บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด (16) บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด (17) บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด (18) บริษัท เคอรี่ เอ็กเพรส (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ต่อไปในนโยบายนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
3. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายและประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้
นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่มีอยู่ปัจจุบันและที่อาจมีขึ้นในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา (“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”) และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัท (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของบริษัทเพื่อให้สามารถใช้แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทได้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
1) ลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัท ซึ่งรวมไปถึง บุคคลธรรมดาซึ่งใช้หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์แอปพลิเคชัน หรือบริการ ผู้ติดต่อสอบถาม ข้อมูลผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการ ผู้ที่รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และผู้ที่ได้รับการเสนอหรือชักชวนจากบริษัทให้ใช้หรือรับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันหรือบริการ
2) บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัท เช่น กรรมการ ผู้แทนนิติบุคคล ผู้ติดต่อ ตัวแทนบุคคลธรรมดาผู้รับมอบอำนาจ ลูกจ้าง พนักงาน เจ้าหน้าที่ บุคลากรและบุคคลอื่นในทำนองเดียวกันของลูกค้านิติบุคคลของบริษัท รวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นใดที่ลูกค้านิติบุคคลเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมายังบริษัท เพื่อดำเนินธุรกรรมกับธนาคาร เพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการของบริษัท (“บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล“)
3) ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือที่ปรึกษาของบริษัท (“ผู้ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท”)
4) บุคคลธรรมดาอื่นใดที่บริษัทมีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทไม่ว่าจะในทางใด เช่น ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท รวมทั้งระบบแอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นใด ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการแก่บริษัท คู่ค้าเป็นต้น (“บุคคลที่ติดต่อกับบริษัทในประการอื่น“) ข้อ 1) ถึง 4) เรียกรวมกันว่า “ท่าน“
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
นโยบายนี้จะใช้บังคับกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน โดยบริษัทอาจจะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ช่องทางให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ควบคุมดูแลโดยบริษัท ได้แก่ LINE: ไลน์ Facebook: เฟซบุ๊ก โทรศัพท์ โทรสาร ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ ได้แก่ อีเมล ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน (Call Center) การสื่อสารแบบตัวต่อตัว ใบสมัครงาน สัญญา ข้อตกลง หรือเอกสารใด ๆ จดหมาย ผ่านแบบสอบถาม นามบัตร ไปรษณีย์ งานกิจกรรม การประชุมและ การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท
2) ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แอปพลิเคชัน ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันหรือบริการของบริษัทด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ หรือบุคคลที่สาม สถาบันทางการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และสถานที่อื่น ๆ และ/หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท ทั้งนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้ให้แก่บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
อย่างไรก็ตาม โปรดอ่านนโยบายฉบับนี้พร้อมกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการหรือเอกสารอื่นใดที่ท่านใช้หรือเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีการกำหนดแยกต่างหากเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่าน
5. การดำเนินการของบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
(1) ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลตามคำนิยามข้อ 2 โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 5.2
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลตามคำนิยามข้อ 2 โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวและข้อมูลดังต่อไปนี้ ได้แก่
1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวมิติข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า)
2) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือ นิติกรรมสัญญา หรือเอกสารประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)
3) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลโรคประจำตัว และ/หรือ ความพิการ
4) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม
5) ข้อมูลที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือ เสียง
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เฉพาะกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น
สำหรับกรณีที่เป็นข้อมูลที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือเสียง ซึ่งเจ้าของข้อมูลได้ปฏิบัติหน้าที่ให้แก่บริษัทนั้น บริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ส่วนกรณีที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือเสียงที่ได้จากการบันทึกผ่านกล้องวงจรปิดนั้น บริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านความปลอดภัย หรือปฏิบัติตามกฎหมาย
5.2 ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน ประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านต้องการจากบริษัท ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเป็นเจ้าของ โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันหรือบริการที่ท่านใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) ลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัท ผู้ที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท
1) ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเกิด อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง หมู่เลือด สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา ประเทศที่เกิด ลายมือชื่อ สถานภาพครอบครัว สถานภาพการสมรส จำนวนบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรข้าราชการ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายละเอียดใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น ข้อมูลบนเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เอกสารที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ใบอนุญาต ทำงาน หนังสือรับรองถิ่นที่พักอาศัย ภาพถ่าย เทปบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สถานภาพทางการเมือง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า และเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ ข้อมูลโรคประจำตัว ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลความพิการ
2) ข้อมูลการศึกษา เช่น ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา ประวัติการอบรม การดูงาน การฝึกงาน
3) ข้อมูลการทำงาน เช่น ประวัติการทำงาน อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจ ประเภทขององค์กรที่ทำงาน อายุการทำงาน สถานที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น เอกสารประกอบการ ธุรกิจทะเบียนการค้า ภพ.20 หนังสือรับรองธุรกิจ และเอกสารการเสียภาษีนิติบุคคล
4) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน รายละเอียดการจัดส่งหมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร แผนที่ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ที่อยู่อีเมล LINE ID บัญชี Facebook และ ID อื่นๆ จากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ของท่าน
5) ข้อมูลทางการเงิน เช่น ระดับรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน ประเทศแหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชี สลิปเงินเดือน ข้อมูลสถานภาพทางการเงิน ชื่อและเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร ข้อมูลเงินอิเล็กทรอนิกส์ ค่าใช้จ่าย จำนวนเงินใช้จ่ายต่อวัน ใบเสร็จ บิล และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของท่าน
6) ข้อมูลที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ท่าน เช่น ประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเลือก รายละเอียดตามใบคำขอสมัครใช้ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท บริการด้านโอนเงิน การหักภาษี ณ ที่จ่าย ความสัมพันธ์ต่อพนักงานของบริษัทหรือต่อบริษัทอื่น ๆ รายละเอียดในแบบฟอร์มและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ KYC และ CDD ข้อมูลความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง หรือบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ผลการทดสอบความเหมาะสม ระดับการเข้าถึงข้อมูลในระบบของท่าน ข้อมูลในหนังสือมอบอำนาจ ข้อมูลอื่นใดในเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอหรือการสมัครใช้บริการของบริษัท
7) ข้อมูลทางธุรกรรม เช่น รายละเอียดการทำธุรกรรมถึงท่านและจากท่าน วันที่ และ/หรือ เวลาที่โอนเงินหรือกำหนดชำระเงิน วิธีการชำระเงินและการรับเงิน จำนวนเงินที่ทำธุรกรรม จำนวนเงินสุทธิที่ได้รับ ข้อมูลการโอนเงิน เหตุผลในการทำธุรกรรม เลขที่บัญชี หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้สำหรับจัดส่งการยืนยันทำธุรกรรม ข้อมูลทางธุรกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ข้อมูลและรายละเอียดตามสัญญา วันหมดสัญญา วันที่ทำการติดต่อ
8) รายละเอียดทางเทคนิค เช่น ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol: IP) และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารที่ท่านใช้ในการทำธุรกรรมกับบริษัท
9) ข้อมูลที่เกี่ยวกับ FATCA ของท่าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของท่านในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น สัญชาติ สถานที่ เกิด ถิ่นที่อยู่ถาวร และข้อมูลตามแบบสอบถามเพื่อหาข้อบ่งชี้การเป็นบุคคลของประเทศสหรัฐอเมริกา
10) รายละเอียดด้านพฤติกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรม การดำรงชีวิต ทัศนคติ ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์อื่น ๆ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของท่านกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผลตอบรับและความคิดเห็นของท่านต่อประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านได้รับ รายละเอียดในการเรียกร้องสิทธิและการร้องเรียนของท่าน
11) รายละเอียดด้านการตลาดและการสื่อสาร เช่น ตัวเลือกของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากบริษัท บริษัทในกลุ่มสบาย บุคคลที่สาม พันธมิตรทางธุรกิจ และตัวเลือกในการติดต่อสื่อสารของท่าน
(2) บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัท และบุคคลที่ติดต่อกับบริษัทโดยประการอื่น
1) ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล วันเกิด อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา ลายมือชื่อ สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น) รายละเอียดในแบบฟอร์มและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ KYC และ CDD ข้อมูลความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
2) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจ ประเภทขององค์กรที่ทำงาน อายุการทำงาน สถานที่ทำงาน ระดับการเข้าถึงข้อมูลในระบบ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หนังสือมอบอำนาจ หนังสือแสดงตนผู้มีอำนาจในนามบริษัท
3) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชนหรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล
4) รายละเอียดทางเทคนิค เช่น ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol: IP) และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารที่ท่านใช้ในการใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และเว็บไซต์ของบริษัท
(3) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ผู้ค้ำประกัน ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีอำนาจ ผู้ได้รับมอบอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกจ้าง พี่น้อง บิดามารดา คู่สมรส ผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสต์ ตัวแทนบุคคลที่อยู่ในสายการควบคุมหรือการเป็นเจ้าของ เจ้าของร่วม และบุคคลท่านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท และบุคคลอื่นใดที่ท่านมีความสัมพันธ์ด้วยอันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัท โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินและรายได้ของสมาชิกในครอบครัว โปรดแจ้งนโยบายนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบาย และขอความยินยอมหากจำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามมายังบริษัทด้วย
(4) ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
ในกรณีที่การให้ความยินยอมของผู้เยาว์ไม่ใช่การใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 22 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ (บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือบุคคลที่ไม่ได้บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามกฎหมาย) เมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองตามกฎหมายเท่านั้น บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่มีความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่มีความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเจตนา หรือไม่เจตนา บริษัทจะดำเนินการระงับ หยุด หรือยกเลิกการใช้บริการของผู้เยาว์ทันที หรือจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอม หรือตามที่กฎหมายอนุญาต
6. ฐานทางกฎหมายและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะพิจารณากำหนดฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันต่างๆ ของบริษัท โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน บริการ หรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการที่ท่านใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
นอกจากนี้บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 24 หรือ มาตรา 26 ให้อำนาจไว้ อีกทั้งบริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบัญญัติให้กระทำได้
ทั้งนี้ ฐานทางกฎหมายและวัตถุประสงค์ในการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
6.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอมของท่าน
(1) เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและการสื่อสาร:
1) เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในกลุ่มสบาย พันธมิตรทางธุรกิจและนิติบุคคลอื่น
2) เพื่อการค้นหา แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านอาจจะสนใจ เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของท่าน และปรับผลิตภัณฑ์และบริการให้เหมาะสมกับท่าน
3) เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันและบริการของบริษัททั้งหมด และบริษัทในกลุ่มสบาย พันธมิตรทางธุรกิจและนิติบุคคลอื่น เช่น เพื่อประเมิน วิจัยการตลาด วิเคราะห์จัดทำแบบจำลอง และพัฒนาบริการผลิตภัณฑ์การจัดจำหน่าย ระบบโครงสร้างในเชิงภูมิศาสตร์
4) เพื่อการออกกลยุทธ์และแคมเปญ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า กำหนดประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของบริษัท เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจบริษัทให้เหมาะกับความชอบของลูกค้าของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เห็นและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่
(2) เพื่อเรียนรู้ความต้องการ และสามารถตอบสนองให้เกิดความพึงพอใจ เช่น เพื่อทราบข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน และบริการที่ท่านได้รับและได้ใช้ และผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยการพิจารณาประเภทของผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน และบริการที่ท่านใช้จากบริษัท ท่านต้องการให้บริษัทติดต่อท่านอย่างไรเป็นต้น รวมทั้งเพื่อทราบข้อมูลจากการสำรวจความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันและบริการของบริษัท
(3) เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ และแพลตฟอร์ม เช่น เพื่อบริหารจัดการ ดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ และจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกและให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานได้ อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อปรับปรุงการจัดวางรูปแบบ และปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัทเพื่อการให้บริการที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ท่าน
(4) เพื่อนำเสนอให้บริการสินเชื่อทางการเงินของบริษัท และ/หรือ บริษัทในกลุ่มสบายแก่ท่าน
(5) การวิจัย จัดทำข้อมูลทางสถิติและทำธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อใช้ในธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล (Data analytics business) ของบริษัท บริษัทในกลุ่มสบาย พันธมิตรทางธุรกิจและนิติบุคคลอื่น
(6) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว: บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวมิติข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า) เพื่อการพิสูจน์ตัวตน KYC และ CDD และ เพื่อการแสดงตัวบุคคล รวมถึงการให้บริการแก่ท่าน 2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือ นิติกรรมสัญญา หรือประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) ที่ปรากฏอยู่บนเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือ นิติกรรมสัญญา หรือเอกสารประกอบการ เปิดใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ โดยบริษัทอาจดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือ บริษัทอาจขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่านด้วยตนเอง
ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น
หากฐานทางกฎหมาย คือ การขอความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมของท่านตลอดเวลาและหากเป็นการเก็บรวมรวบ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ การเพิกถอนความยินยอมต้องกระทำโดยผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่ระบุไว้ในข้อ 5.2 (4) ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนที่จะมีการถอนความยินยอม
6.2 วัตถุประสงค์ต่างๆ และฐานทางกฎหมายอื่นๆ
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการที่ท่านใช้งาน โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อการลงทะเบียนและการแสดงตัวตน เช่น เพื่อลงทะเบียนผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ท่าน พิสูจน์ ระบุ และยืนยันท่านหรือ ตัวตนของท่าน ผู้มีอำนาจ หรือตัวแทนของท่าน รวมถึงการพิสูจน์ตัวตนหรือยืนยันตัวตนของท่านทางดิจิทัล
(2) เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันหรือบริการ และบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ เช่น เพื่อเข้าทำข้อตกลงหรือสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการ และจัดการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของท่าน (เช่น ตรวจสอบสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย เพื่อวิเคราะห์สถานะของกิจการของท่านและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกรรมและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการแก่ท่าน เช่น ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน จ่ายเงิน หรือรับชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อพิจารณาอนุมัติการมอบผลิตภัณฑ์การใช้แอปพลิเคชัน หรือให้บริการต่างๆ เพื่อส่งมอบรายละเอียดของข้อตกลงหรือสัญญา ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชัน หรือบริการ ธุรกรรมทางการเงิน และบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การยืนยัน และการยกเลิกธุรกรรม เพื่อรับ/ส่ง จดหมาย พัสดุ และเอกสารสำคัญถึงท่าน เพื่อจัดทำรายงานแจ้งลูกค้าสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชันหรือบริการ เพื่อส่งมอบ ข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันและบริการ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การจัดทำบัญชีและงบดุล ตรวจสอบความถูกต้องของการลงบัญชีเพื่อประเมินผลประโยชน์ ทับซ้อน ให้บริการจัดการหรือการดำเนินธุรกรรมหลังการขาย เพื่อจัดสรรและยกเลิกกิจกรรมที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (เช่น ทำการยกเลิกการให้บริการ เป็นต้น)
(3) เพื่อสร้างความประทับใจด้วยบริการหลังการขาย เช่น เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การใช้แอปพลิเคชันและบริการที่ท่านได้รับ จากบริษัท บริษัทในกลุ่มสบาย หรือจากพันธมิตรทางธุรกิจและนิติบุคคลอื่น เพื่อประมวลผลและอัปเดต ข้อมูลของท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท เพื่อให้คำปรึกษา คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันและบริการ เพื่อจัดการกับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า เพื่อจัดการข้อร้องเรียน คำขอ คำติชม เพื่อจัดการกับปัญหาทางเทคนิค เพื่อแจ้งและให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่ท่าน เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการจัดการ ความสัมพันธ์กับลูกค้า
(4) เพื่อให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น ให้บริการสนับสนุนกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (EKYC) กระบวนการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (Digital Identification)
(5) เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสื่อสาร เช่น เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในกลุ่มสบาย พันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น ตามที่ท่านได้ระบุความต้องการของท่านไว้หรือเคยได้ใช้บริการมาก่อน หรือตามที่ท่านเคยให้ความยินยอมไว้แล้ว รวมถึง ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ใกล้เคียงกับความสนใจและประวัติการรับ ผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมการเสนอการขาย ข้อเสนอและสิทธิพิเศษ แคมเปญ งานกิจกรรม การจัดให้มีการแข่งขัน การชิงโชค การชิงรางวัล รวมถึงการส่งเสริมการขายอื่นๆ และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการเข้าร่วมงาน กิจกรรมของบริษัท ในกรณีที่บริษัทไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่าน
(6) เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการธุรกิจของบริษัท รวมถึงเพื่อการดำเนินงาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบการสื่อสาร การรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบ ความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการธุรกิจเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน
(7) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึง คำสั่งของหน่วยงานรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล ผู้มีอำนาจ หน่วยงานของรัฐบาล และหน่วยงานบังคับ ใช้กฎหมายเมื่อบริษัทมีเหตุผลให้เชื่อว่ากฎหมายกำหนดให้บริษัทปฏิบัติดังกล่าวและหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อแจ้งธุรกรรมต้องสงสัยต่อหน่วยงานด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บังคับใช้ กฎหมายด้านบริการทางการเงิน และหน่วยงานรัฐและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ และตรวจสอบหรือป้องกันอาชญากรรม
(8) เพื่อปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของบริษัท หรือบริษัทในกลุ่มสบาย เพื่อใช้สิทธิของบริษัทและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทหรือบริษัทในกลุ่มสบายเมื่อจำเป็น และชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการบริหาร การจัดทำรายงาน นโยบายภายในตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของบริษัท
(9) เพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัท เช่น เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติ ตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำผิดกฎหมายต่าง ๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่ การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และชื่อเสียง)
(10) เพื่อบริหารความเสี่ยง เช่น เพื่อจัดการความเสี่ยง ตรวจสอบประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยง เพื่อจัดตั้งดัชนีชี้วัดความเสี่ยง จัดทำการสรุปข้อมูลสำหรับการบริหารความเสี่ยง เพื่อวิเคราะห์และคาดเดาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิธีการรับมือ เพื่อประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ และแนะนำหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงและหาวิธีการใดๆ ในการจัดการความเสี่ยง
(11) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(12) เพื่อการดำเนินการตามหน้าที่อื่นๆ ของบริษัท สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน เช่น ท่านในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทที่บริษัทจะดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้น หรือท่านในฐานะคณะกรรมการ หรือผู้บริหารหรือที่ปรึกษาของบริษัทที่บริษัทดำเนินการแต่งตั้ง รวมทั้ง ท่านในฐานะใดๆ ก็ตามที่บริษัทจะต้องดำเนินการอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท อาจส่งผลกระทบต่อท่าน เช่น บริษัทไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ ท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส นอกจากนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
6.3 การจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่บริษัทเก็บไว้ก่อนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท
หากท่านเป็นลูกค้าเดิมของบริษัทก่อนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ (1) ศาสนา (2) เชื้อชาติ (3) ความพิการ (4) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ใช้ประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือ นิติกรรมสัญญา (5) ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ใช้ประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้เพื่อการเก็บหลักฐานเอกสารเท่านั้น โดยบริษัทจะไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามดังต่อไปนี้ซึ่งการเก็บรวบรวม ใช้เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายฉบับนี้ บุคคลที่สามเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ ท่านสามารถดูนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวด้วยเช่นกัน
7.1 บริษัทในกลุ่มสบาย
บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 6 ด้านบนแก่บริษัทในกลุ่มสบาย การเปิดเผยข้อมูลให้กับบริษัทในกลุ่มสบายดังกล่าว จะทำให้บริษัทในกลุ่มสบายเหล่านั้นสามารถใช้ความยินยอมที่บริษัทได้มาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
7.2 ผู้ให้บริการของบริษัท
บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัทหรือเพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจและการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใดๆ เพื่อประโยชน์แก่ท่าน บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหา ผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกอื่นใด เพื่อสนับสนุนการให้บริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัท ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้จัดหา สนับสนุนหรือให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น จัดทำและให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ เทคโนโลยี (Platform as a Service) แอปพลิเคชัน หรือระบบงานอื่นใดให้แก่บริษัท การให้บริการพิสูจน์ยืนยันตัวตนให้แก่บริษัท (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย (5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ (6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ (7) ผู้ตรวจสอบบัญชี (8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์และการสื่อสาร (10) บริษัทที่ให้บริการด้านแคมเปญ งาน กิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (12) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (13) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (14) ทนายความ ที่ปรึกษา ทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี และ/หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท (15) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือ ทำลายเอกสาร (16 ) บริษัทจัดหางาน (17) บริษัทผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ ให้แก่ท่าน
ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการที่บริษัททำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด
7.3 พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทและนิติบุคคลอื่น
บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจและนิติบุคคลอื่นเพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ บริษัทที่ออกบัตร บริษัทที่ให้บริการรับชำระค่าผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ ผู้ให้บริการด้านการสำรวจวิจัยการตลาด ผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (เช่น co-brand) และผู้สนับสนุนอื่น ๆ
7.4 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด
ในบางกรณีบริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลอื่นหากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด
7.5 บุคคลภายนอก
บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ ลูกค้าท่านอื่น ๆ ผู้ทำธุรกรรมกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับท่าน บุคคลอื่นที่มีการอ้างอิงตามกฎหมาย เป็นต้น แล้วแต่กรณี
8. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ
บางกรณีบริษัทอาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของบริษัทที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อบริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากลหรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
(1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
(2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
(4) เป็นการกระทำตามสัญญาของบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน
(5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
(6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
9. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว บริษัทจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
10. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
บริษัทอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่างๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่บริษัทมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัทจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
11. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) ที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ
บริษัทมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลโดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อบริษัทมีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
บริษัทจะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
12. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
13. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น
13.1 บริษัทอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม(ในกรณีที่ต้องขอความยินยอม) โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
– บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
– วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
– วิธีการในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง
13.2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ (ในกรณีที่ต้องขอความยินยอม)
14. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
15. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์และกระบวนการจัดการสิทธิตามที่บริษัทกำหนดขึ้น โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
15.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดยบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
15.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงรับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน บริษัทอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านขอ
15.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท)
15.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
15.5 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
2. เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
3. เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 15.3 และบริษัทไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
4. เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่จำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าวหากบริษัทต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
15.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
1. เมื่อบริษัทเมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
2. เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นให้บริษัทเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้าน
4. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5. ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
15.7 สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใชสิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
หากท่านต้องการใช้สิทธิใด ๆ ที่ระบุในส่วนนี้ ท่านสามารถทำได้ ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
คำร้องขอใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาจมีบางกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของท่านได้โดยสมควรและโดยชอบ เช่น เมื่อบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท เป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ท่านอาจแจ้งให้บริษัททราบถึงข้อกังวลของท่านก่อน เพื่อให้บริษัทพิจารณาแก้ไขข้อกังวลของท่าน
16. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัทมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าวบริษัท ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัท เพื่อให้บริษัทมีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก
17. การดำเนินการเกี่ยวกับลูกค้านิติบุคคล
บริษัทไม่มีเจตนาในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้านิติบุคคล หรือข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวภายในบริษัทเท่านั้น ในกรณีที่ลูกค้านิติบุคคลของบริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล ท่านในฐานะลูกค้า นิติบุคคลมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ เพื่อให้บริษัทให้บริการหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่านได้
(ก) ได้ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เปิดเผยให้แก่บริษัทและจะแจ้งบริษัท หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ได้ให้ไว้ (หากมี)
(ข) ได้รับความยินยอมหรือสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(ค) ได้แจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลดังกล่าวแล้ว และ
(ง) จะดำเนินการเพื่อให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อวัตถุประสงค์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้น ซึ่งรวมถึงการที่บริษัทมีสิทธิที่จะรายงานผลการทำธุรกรรมของลูกค้ารายย่อยของลูกค้านิติบุคคล รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกลับไปยังลูกค้านิติบุคคลได้
18. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อบริษัทเผยแพร่บน https://sabuymoney.com/privacy/ อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าว มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ
19. คุกกี้
บริษัทเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ บริษัท เช่น https://sabuytech.com/ https://termsabuyplus.com/ https://sabuysolutions.com/ https://sabuymoney.com/ หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทและเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ บริษัทและข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
20. การติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล และข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อบริษัท
(1) ระบุรายละเอียดในการติดต่อ
– ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ( Call Center ) หมายเลขโทรศัพท์ : 02-009-0500
– Line Official : @sabuygroup
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
– เลขที่ 230 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
– Email : dpo@sabuytech.com
อัพเดทเวอร์ชั่น 2 : วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565